info@tangopilgrim.com | +66 954789624
ทำความรู้จักแนวเพลง Jazz

แนวเพลงมีมากมายหลายรูปแบบ แต่มีอยู่หนึ่งแนวเพลงที่เป็นที่ต้องการและฮิตตั้งแต่สมัยอดีตนั้นก็คือ “เพลง Jazz”  ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับ “Jazz” กันูครับว่า เราจะรู้อะไรบ้าง แนวเพลงนี้เป็นอย่างไร? ต้นกำเนิดมากจากที่ไหนกัน บทความนี้จะพาไปหาคำตอบกันครับ

ต้นกำเนิดเพลง Jazz

ดนตรีแจ๊สกำเนิดขึ้นในเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา ปลายคริสต์ทศวรรษที่ 20 โดยกลุ่มคนดำชาวแอฟริกาที่ถูกจับมาเป็นทาส เดิมเป็นคนกลุ่มที่ชื่นชอบการฟังเพลง รักความครื้นเครงเป็นชีวิตจิตใจ ทำให้กลุ่มคนผิวดำรวมตัวกันทำกิจกรรมผ่อนคลายในชีวิตประจำวันที่ถูกกดขี่ข่มเหง ช่วยปลดปล่อยอารมณ์ไปตามจังหวะดนตรี เคาะประกบให้มีจังหวะ และใส่คำพูดร้องตามในภายหลัง เมื่อเริ่มร้องเล่นมาอย่างแพร่หลาย จึงกลายเป็นต้นกำเนิดเพลงแจ๊สในที่สุด

3 ประเภทแนวเพลง Jazz


  • New Orleans Jazz / Dixieland Jazz

ว่ากันว่าดนตรีแจ๊สเกิดขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ณ ย่านโลกีย์นาม “สตอรีวิลล์” ณ เมืองนิวออร์ลีนส์ มลรัฐหลุยส์เซียน่า สหรัฐอเมริกา เกิดจากการที่คนดำในแถบนั้นเอาเครื่องดนตรีในวงมาร์ชแบบคนขาวมาเล่นในแบบที่ต่างออกไป อย่างไรก็ดี ในยุคสมัยนั้นสังคมอเมริกันก็ยังเหยียดสีผิวอยู่มากและยังไม่ให้คนดำเข้าไปอัดเพลงในห้องบันทึกเสียง สิ่งที่หลงเหลือถึงปัจจุบันของดนตรีแจ๊สยุคนี้ก็คือ งานบันทึกเสียงของวง The Original Dixieland Jass Band ซึ่งเป็นวงคนขาวล้วน (ในช่วงนั้นผู้คนมักสะกดคำว่าแจ๊สเป็น Jass ก่อนจะปรับมาเป็น Jazz ในภายหลัง)


  • Big Band / Swing

ดนตรีแจ๊สเข้าสู่ยุครุ่งเรืองสูงสุดในช่วงทศวรรษ 1930 ถึงตอนปลายทศวรรษ 1940 ยุคนี้เพลงแจ๊สในแบบ “สวิง” มีสถานะเปรียบเสมือนเพลงป็อปในยุคปัจจุบัน คือเป็นเพลงที่ใช้เต้นรำและเป็นเพลงที่นิยมในหมู่วัยรุ่น ซึ่งรูปแบบวงแจ๊สยุคนี้ขยายใหญ่โตเป็นวงออร์เคสตร้าขนาดย่อมๆ ด้วยเหตุผลว่าในยุคนั้นเทคโนโลยีขยายเสียงยังไม่พัฒนาไปไกล และยังไม่มีระบบลำโพงขยายเสียงให้ได้ยินทั้งฮอลล์อย่างทุกวันนี้


  • Bebop / Post-Bop

ดนตรีแจ๊สในฐานะเพลงป็อปและเพลงเต้นรำเริ่มอิ่มตัวไปตามกาลเวลา จนช่วงกลางๆ ทศวรรษที่ 1940 ก็เริ่มมีนักดนตรีแจ๊สบางส่วนพยายามพัฒนาดนตรีแจ๊สที่ซับซ้อนขึ้นเพื่อการนั่งฟังอย่างจริงจังขึ้นมา ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ดนตรีแจ็สที่เป็นวงที่เล็กลง ใช้เครื่องดนตรีไม่เกิน 5-6 ชิ้น ไม่ใช่การใช้นักดนตรีเป็นสิบชีวิตแบบสไตล์สวิง ภาคดนตรีก็มีความซับซ้อนขึ้น และเพิ่มการใช้โน๊ตและคอร์ดที่พิสดารพันลึกขึ้น รวมถึงเพิ่มส่วนการด้นสดยาวๆ ในเพลง ให้นักดนตรีให้แสดงฝีมือกันเต็มที่ในทุกเครื่องดนตรี ทั้งหมดทำให้เพลงแจ๊สกลายมาเป็นเพลงฟังยากแบบทุกวันนี้

ประโยชน์ของการฟังเพลง

  • เพลงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เมื่อยาแก้ปวดออกฤทธิ์ไม่เร็วดั่งใจ ลองเปิดเพลงโปรดของคุณดูสิ แล้วจะรู้ว่าการฟังเพลงนั้นช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี
  • เพลงช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ดีขึ้น สิ่งสำคัญในการเข้ายิมไม่ใช่รองเท้าหรือชุดกีฬา แต่คือการได้ฟังเพลงในระหว่างที่ออกกำลังกายไปด้วย เพราะการได้ฟังเพลงจะช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้มากขึ้น
  • เพลงช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น ข้อนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ้าง แต่มีเสียงสนับสนุนว่าการฟังเพลงระหว่างการทำงานอาจลดคุณภาพงานลงบ้าง แต่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีความสุขมากขึ้น

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “แนวเพลง Jazz” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ เราหวังว่าจะชอบกันนะครับ